มีน้องคนหนึ่งโทรมาระบายว่า
ตั้งใจว่าจะไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
มี เพื่อนอีกกลุ่ม ชอบว่า ว่าไม่มีปัญญาหรอกเรียนก็ไม่ตรงสายจะทำได้เหรอ
พี่ ๆ ขอบอกว่าคำดูถูกนี่ดีกว่าคำชมเยินยอนะคะ
เพราะคำดูถูกจะทำให้เราไม่หลง ไม่เหลิง ไม่ทะนงตน
และมันจะทำให้เราอยากทำให้สำเร็จเพื่อที่จะลบคำสบประหมาดให้ได้ด้วย
แต่ถึงเราสอบแล้วไม่ได้ก็นับว่าดี ไม่ได้ก็แค่เสมอตัวได้ลองข้อสอบ
ไม่แน่มันอาจไม่เหมาะกับเราเผลอ ๆ เราอาจได้ที่ที่ดีและเหมาะกับเรา
คำดูถูกของคน หากมองไม่เป็นจะบั่นทอนจิตใจ
แต่ถ้ามองเป็น กลับเป็นพลังขับเคลื่อนอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เราไม่ประมาทและก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง
อย่าท้อนะ และอย่ายกตนไปคอยเปรียบเทียบกับคนอื่น
มีเด็กคนหนึ่ง อยากได้อะไร แค่ร้องไห้ แผดเสียงดัง แม่ก็ต้องรีบควักเงินซื้อของให้
วันหนึ่ง เด็กคนนี้ร้องจะเอารองเท้าคู่สวยล้ำสไตล์
ร้องกรี๊ดๆๆๆ เมื่อแม่ไม่ยอมหยุดซื้อให้
แต่สักพัก แม่ทนเสียงร้องไม่ไหวจึงหันไป พร้อมควักกระเป๋าจะหยิบเงินออกมาซื้อรองเท้าให้ลูกที่คอยเอาแต่ใจตนเอง
และจะต้องมีทุกอย่างที่เพื่อนมี หรืออยากได้ก็ต้องได้ดั่งใจ
แต่ครั้งนี้ แม่กลับแปลกใจ เมื่อเห็นลูกของตนปาดน้ำตายืนตะลึงแล้วบอกแม่ว่า
"หนูไม่เอารองเท้าแล้วแม่"
แม่มองไปตามสายตาลูก
และสิ่งที่แม่และลูกต้องตะลึงก็คือ
ภาพเด็กชายที่เท้าขาดสองข้าง เดินอย่างอเน็จอนาจแต่กลับปริ่มด้วยรอยยิ้ม
การเห็นเพียงคุณค่าของรองเท้าที่เด็กอยากได้ กลับกลายเป็นการมองเห็นคุณค่าของเท้าที่เด็กมีแต่กลับมองข้ามไปอย่างไม่ใส่ใจ
ใครจะดูถูกหนู แต่ถ้าเห็นคุณค่าของตัวเอง
โลกนี้ไม่มีใครมาทำลายความทยานฝันของเราได้นะ
เพียงฝันและสานด้วยความเพียรนะ
อย่าคาดหวัง เพราะความฝันจะมีพลังถ้าเราทำอย่างต่อเนื่องโดยไม่คำนึงว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ทุกการสานฝันคือรางวัลตอบแทนที่งดงามอยู่แล้วนะน้องๆ ๆ
จากพี่ ๆ และตัวอย่างจากเรื่องที่ครูสมศรีเล่า